ภูมิคุ้มกันคืออะไร? อธิบายให้เข้าใจกันในแบบง่ายๆนั้นคือ การที่เราไม่สบาย มีการเจ็บไข้ นั้นหมายความว่าร่างกายเรานั้นอ่อนแอจนทำให้เชื่อโรค เชื้อไวรัส เดินทางเข้าสู่ร่างกาย แล้วทำให้ไปรบกวนการทำงานระบบในร่างกายต่าง การที่เชื้อไวรัสเหล่านี้สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้นั้นก็คือ การที่ภูมิคุ้มกันเรานั้นไม่แข็งแรงพอที่จะต่อต้านเชื่อไวรัสพวกนั้นไว้ได้ แน่นอนว่าไม่มีใครไม่เคยเป็นหวัดหรือไม่สบาย ร่างกายของคนเรามันจะมีช่วงที่ภูมิคุ้มกันลดลงจนทำให้ร่างกายอ่อนแอจนเข้าภาวะไร้ภูมิคุ้มกัน
แต่ไม่ได้แปลว่าภูมิคุ้มกันจะหายออกไปหมด ยกตัวอย่างเช่น ในผู้หญิงที่อยู่ช่วงเป็นประจำเดือน ร่างกายจะรู้สึกเหนื่อย เมื่อย ซึ่งเป็นช่วงของเสียเลือด ช่วงนี้ภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้หญิงจะลดลง บางคนถึงกับไม่สบายในช่วงที่เป็นประจำเดือนพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า ไข้ทับฤดู เป็นต้น ร่างกายคนเราสามารถอ่อนแอได้ทุกเมื่อ และสาเหตุหลักๆของการที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันนั้นอ่อนแอลงคือ
- การที่เรานั้นพักผ่อนมาเพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น
- ไม่ออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายนั้นจะเป็นตัวกระตุ้นระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันได้อย่างดี เพราะจะทำให้สารเคมีในร่างกายเกิดความสมดุล ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น
- รับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารประเภทน้ำตาล แป้ง ไขมัน ที่ปริมาณมากเกินไป เพราะอาหารเหล่านี้ไม่มีวิตามินและแร่ธาตุที่จะเข้าไปช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน
- ความเครียดสะสม ซึ่งสาเหตุนี้นั้นเป็นผลกระทบโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อเรารู้สึกเครียด ร่างกายจะหลังฮอร์โมนความเครียดออกมาได้เช่นเดียวกันกับกรณีพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งจะทำให้ร่างกายโทรมและอ่อนลง
จากปัญหาเหล่านี้ซึ่งเป็นสาเหตุที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันยากมาก เพราะการที่เราล้างกายอ่อนแอลง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะอ่อนแอตามลงไปด้วย ทำให้เชื้อโรคแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าติด แต่แน่นอนว่าเรานั้นสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มมันให้แข็งเพิ่มมากขึ้นได้ ไม่ว่าจะในคนที่อ่อนแอ หรือ คนที่แข็งแรงอยู่แล้ว ก็สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วยวิธีดังนี้
- งด / เลิก การสูบบุรี่
- ควรรับประทานอาหารที่วิตามินและเกลือแร่ทุกมื้ออย่างผัก ผลไม้ ธัญพืช ในส่วนของอาหารประเภทไขมัน ควรเป็นไขมันอิ่มน้อย เพราะอย่างไรแล้วไขมันยังถือว่าเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ
- ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม
- พักผ่อนให้เพียง ฝึกวินัยในการนอน และควรนอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมง
- ก่อนรับประทานอาหารควรล้างมือให้สะอาด หรือหลังทำกิจกรรมก็แล้วแต่ก็ควรล้างมือทุกครั้ง เพราะมือจะเป็นส่วนแรกที่เรามักลืมว่าจะต้องหยิบจับอาหารเข้าปาก หรือนำไปขยี้ตา ซึ่งจะเป็นตัวนำพาเชื้อโรคอีกช่องทางได้เช่นกัน
สนับสนุนโดย ร้านขายยามีชุดตรวจเอดส์ขายไหม